Proof of Stake (PoS) กับการค้ำประกันในระบบ Blockchain

สวัสดีครับ คุณผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งในคอลัมน์นี้ วันนี้แอดมินมีความรู้เล็กๆ น้อยๆมาฝาก เกี่ยวกับ Proof of Stake เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปลุยกันเลย
Proof of Stake (PoS) คือ วิธีการหรืออัลกอริทึมรูปแบบหนึ่ง ที่ใช้ในการตรวจสอบธุรกรรมบนเครือข่าย Blockchain โดยมีจุดมุ่งหมายเหมือน Proof of Work (PoW) แต่ขั้นตอนและวิธีการนั้น แตกต่างกัน
ใน Proof of Work จะใช้ “การขุด” ในการแข่งกันยืนยัน Transaction เพื่อแก้สมการ ถอดรหัสและหาคำตอบทำให้มัน เปลืองพลังงาน เปลืองไฟ แถมยังช้าอีกด้วยจึงได้มีการคิดค้นวิธีใหม่ที่มีชื่อว่า “Proof of Stake” เกิดขึ้นในปี 2011 โดยใช้แนวคิดที่ว่า
“ไม่ต้องไปขุดมันแล้ว สิ้นเปลืองพลังงาน ใช้การค้ำประกันแทนใครวางเหรียญ (Stake) ไว้เยอะกว่า ก็จะได้รับสิทธิ์ในการยืนยัน !”
แนวคิดนี้มีลักษณะคล้ายกับ Proof of Work แต่แทนที่จะให้ผู้ที่ยืนยันธุรกรรม แข่งกันยืนยันธุรกรรมด้วยการขุด เราจะใช้การ “วางเงินค้ำประกันแทน”
ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในการยืนยันจะ ขึ้นอยู่กับจำนวนเหรียญ ที่คนๆนั้นถืออยู่ ถ้าระบบจับได้ว่าเราพยายามโกงหรือแฮคระบบก็จะริบเงินประกันของเราไป
เปรียบเสมือน เวลาที่เรานำรถหรือบ้าน ไปวางค้ำประกันแหละครับ หากเราใช้หนี้ตามกำหนด เราก็จะได้รถหรือบ้านของเราคืน เมื่อใช้หนี้หมด แต่ถ้าเราหนีหนี้ละก็ เตรียมบอกลา รถหรือบ้านสุดที่รักของเราไปได้เลย
Proof of Work (PoW)
Proof of Stake (PoS)
ขั้นตอนของ Proof of Stake
- ระบบจะทำการเลือก ผู้ตรวจสอบ (Validator) โดยผู้ตรวจสอบต้องทำการฝากเหรียญบางส่วนไว้ในเครือข่าย ที่เรียกว่าสเตค (Stake) ซึ่งขนาดของ Stake จะเป็นตัวกำหนดโอกาสที่ผู้ตรวจสอบจะสามารถ หลอม (Forge) หรือสร้างบล็อกต่อๆไปได้
- เมื่อถูกเลือกแล้ว ผู้ตรวจสอบจะต้องตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดที่อยู่ในบล็อก วิธีการตรวจสอบ จะใช้การ “ใส่เหรียญลงบนบล็อก” ที่คิดว่าบล็อกนั้นมีโอกาสที่จะถูกเพิ่มเข้าไปใน Blockchain
- ถ้าผู้ตรวจสอบใส่เหรียญลงไปในบล็อกที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมา เขาจะ เสียเหรียญที่ฝากเอาไว้ แต่ถ้าบล็อกนั้นถูกต้อง ผู้ตรวจสอบก็จะ ได้รางวัลตามสัดส่วนที่ได้วางหลักประกันเอาไว้
จะเห็นได้ว่าระบบ Proof of Stake นั้น แทบไม่ต้องใช้พลังงาน แถมมันยังเร็วมากอีกด้วย เนื่องจาก ระบบไม่มีขั้นตอนที่ต้องใช้การประมวลผลนานๆ
จึงไม่ต้องแปลกใจเรยว่าทำไม Proof of Stake ถึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมาก โดยเงินดิจิทัลสกุลแรกที่นำวิธีนี้ไปใช้ คือ “Peercoin”
อนาคตของ Proof of Stake
Proof of Stake นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันในวงการ
- ประการแรก ระบบ Proof of Stake นั้นถูกมองว่า มูลค่าของเหรียญเป็น “มูลค่าที่จับต้องไม่ได้” เพราะเหรียญสามารถสร้างขึ้นมาในระบบ แล้วนำเอาไปวางค้ำประกัน
- ประการที่สอง เป็นระบบทุนนิยม ! ใช้อำนาจเงินตราในการค้ำประกัน ใคร มีเงินเยอะกว่าก็ได้เปรียบ คนรวยก็จะยิ่งรวยขึ้น
- อีกประเด็นสำคัญ โอกาสที่ระบบจะถูกโจมตี แบบที่เรียกกันว่า 51% Attackทำได้หรือไม่ ? ในระบบ Proof of Work นั้นหากเราจะโจมตีระบบได้สำเร็จ เราจะต้องมีกำลังขุดอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง นั่นหมายถึงคุณจะต้องมีเครื่องขุดมหาศาลและรวยมาก
ในทางกลับกัน Proof of Stake ถูกมองว่า มันง่ายมากที่จะมีใครซักคนถือเหรียญอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้นั้นก็มีโอกาสที่จะโจมตีระบบได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม Proof of Stake ส่งผลกระทบต่อสายขุด เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นระบบที่ไม่มีการขุด ทำให้นักขุดต่างๆ กังวลหากระบบนี้ถูกนำมาใช้แทน Proof of Work
ปัจจุบัน Ethereum เองก็กำลังทดสอบ และพัฒนาระบบ Proof of Stake ควบคู่ไปกับ Proof of Work ทำให้สายขุด ETH ต่างมีความกังวล กลัวว่าจะขุดกันไม่ได้อีก
แต่ ณ ปัจจุบัน Proof of Stake ยังไม่สามารถที่จะพิสูจน์ และเป็นที่ยอมรับ ได้มากพอที่จะถูกนำมาใช้แทน Proof of Work ได้ทั้งหมด การนำมาใช้บนระบบ Public Blockchain ยังไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก ส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในระบบ Hybridge เช่น ระบบ MasterNode อย่าง Zcoin, Dash เป็นต้น เพราะเหรียญที่ใช้ Proof of Work ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเหรียญที่ใช้ประโยชน์ในลักษณะของ Currency จึงต้องมีต้นทุนที่ทำให้ เหรียญมีมูลค่า
ในทางกลับกัน ระบบ Private Blockchain หรือ Consortium Blockchain มีความเหมาะสมที่จะนำ Proof of Stake มาใช้งาน เพราะ “ระบบจะอยู่ในการควบคุมของคนกลุ่มหนึ่ง หรือบริษัทหนึ่ง รูปแบบที่เครือข่ายนั้นไม่เป็นสาธารณะ 100%”
ผู้ที่ Issue เหรียญขึ้นมาครั้งแรกนั้น จะสามารถมอบเหรียญให้แก่ผู้ที่จะเข้ามาใช้งานระบบได้ตามที่ต้องการ
อาจจะฟังดูเหมือนว่า มันมีความเป็น Decentralized น้อยลง แต่เมื่อเทียบกับประโยชน์ในรูปแบบของ Organization มันกลับมีประโยชน์มากกว่า เพราะส่วนใหญ่แล้ว เหรียญที่ถูกใช้งานในธุรกิจจะมี Utility ที่ใช้กับองค์กรนั้นได้ ทำให้ มีมูลค่าพื้นฐาน ที่สามารถทดแทนต้นทุนของ Proof of Work และถูกนำไปใช้กับโปรเจค Blockchain Base ต่างๆ มากมายครับ
Comments
Post a Comment