แพลทฟอร์ม Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) คืออะไร

สวัสดีครับทุกท่าน! หลังจากในตอนก่อนๆ เราได้เล่าถึงเรื่อง Road Map หลังจากที่ทาง Jfin ระดมทุนเสร็จ และยังได้กล่าวถึงความโปร่งใสของการนำเงินทุนไปใช้ ซึ่งท่านผู้อ่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าทางเงินทุนนั้น จะถูกนำไปสร้างแพลทฟอร์ม Decentralized Digital Lending Platform (DDLP)
ว่าแต่ “แพลทฟอร์ม DDLP นี่ มันคืออะไรล่ะ? มีประโยชน์ยังไงบ้าง? เกี่ยวข้องกับเหรียญ Jfin อย่างไร?”
ก่อนที่เราจะลงลึกถึงเรื่องเหล่านี้ แอดมินจะขอเล่าถึงปัญหาในระบบการขอสินเชื่อที่เป็นแนวคิดในการสร้างระบบ DDLP ก่อน นั่นก็คือ….
ปัญหาในการเข้าถึงสินเชื่อ
ในปัจจุบันนั้นการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ที่ต้องการสินเชื่อนั้นยังมีช่องว่างและปัญหาอีกหลายด้าน อาทิการเข้าถึงสินเชื่อรายย่อย (Micro loan) หรือการที่ผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กหรือบุคคลที่มีหลักทรัพย์ไม่มากพอ มักจะประสบกับปัญหาด้านการขอสินเชื่อที่มีความยากลำบากมาก
การที่สถาบันทางการเงินจะปล่อยสินเชื่อให้ให้กับผู้กู้รายย่อยนั้น สถาบันทางการเงินจะพิจารณาจากหลักทรัพย์ต่างๆ รวมถึงการตรวจสอบประวัติการเงิน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนั้น กลับค่อนข้างขาดประสิทธิภาพ
ด้วยขั้นตอนการพิจารณาและทางเอกสารที่ใช้เวลานาน ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนและค่าธรรมเนียมในการปล่อยสินเชื่อนั้นค่อนข้างสูง ทำให้ผู้กู้นั้น ไม่ว่าจะมีความน่าเชื่อถือเพียงใด หรืออาจจะมีความสามารถที่จะชำระสินเชื่อได้ตรงเวลา
“ก็มีโอกาสที่จะถูกปฏิเสธได้”
จากการขาดหลักทรัพย์หรือข้อมูลที่สถาบันการเงินต้องการ ซึ่งสุดท้ายก็จะส่งผลให้ผู้กู้นั้นไปพึ่งพิงสินเชื่อนอกระบบที่มีดอกเบี้ยมากกว่าร้อยละ 150 ต่อปี และนี้เป็นช่องว่างขนาดใหญ่ที่ทางระบบ DDLP จะเข้ามาแก้ไข
Decentralized Digital Lending Platform (DDLP)
DDLP นั้น เป็นแพลทฟอร์มสำหรับปล่อยสินเชื่อดิจิทัลแบบไม่มีตัวกลาง โดยตัวแพลทฟอร์มจะทำหน้าที่ในการ Matching ผู้ปล่อยกู้และผู้ต้องการสินเชื่อโดยตรง
มีการใช้เทคโนโลยี Blockchain ที่สามารถสร้างระบบในการทำธุรกรรมที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยตัวกลางใดๆ ใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิคส์เก็บข้อมูลส่วนตัวแทนการใช้เครือข่าย และการใช้ Smart Contract ที่ทำให้ระบบสามารถสร้างสัญญาทางการเงินในรูปแบบอิเล็คทรอนิคส์ที่ทำให้สัญญานั้นทำงานอัตโนมัติและมีข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ ไม่บิดพลิ้ว
ซึ่งด้วยระบบทั้งหมดที่กล่าวมานั้นจะทำให้การกู้ยืมสินเชื่อระหว่างบุคคลนั้นกลายเป็นสิ่งที่ง่ายและมีต้นทุนที่ต่ำลงไม่ว่าจะด้านเวลาหรือค่าธรรมเนียม ในตัว DDLP ของทาง Jfin นั้นจะมีระบบที่จะคัดเลือกสินเชื่อต่างๆที่เหมาะสมกับผู้ขอสินเชื่อโดยผู้ขอสินเชื่อแค่ส่งเอกสารและจะได้คำตอบของการอนุมัติสินเชื่อในเวลาไม่นาน
Credit Scoring
หนึ่งในปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการปล่อยสินเชื่อคือ การตรวจสอบผู้กู้ ซึ่งในจุดนี้ระบบ DDLP นั้นจะใช้หลักการ “Machine Lerning” ในการคำนวณความน่าเชื่อถือของผู้กู้ เช่น ประวัติการชำระเงิน,การใช้งานบนโซเชียล, ประวัติการทำธุรกรรมในระบบ DDLP ของ JFin เป็นต้น
ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ผู้ปล่อยกู้จะพิจารณาถึงดอกเบี้ยรวมถึงวงเงินที่ผู้กู้ซึ่งในจุดนี้จะเป็นผลดีต่อทั้งผู้กู้และผู้ปล่อยกู้
- ในด้านของผู้ที่ปล่อยกู้นั้นจะสามารถทราบได้จากแพลทฟอร์มว่า ผู้ขอสินเชื่อแต่ละคนนั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน และสามารถพิจารณาถึงความเสี่ยงและผลตอบแทนได้แม่นยำยิ่งขึ้น
- ในด้านของผู้ที่ขอสินเชื่อนั้นแม้ผู้ขอสินเชื่ออาจจะไม่ได้มีหลักทรัพย์ที่มั่นคง แต่หากผู้กู้มีประวัติการชำระหนี้ผ่านแพลทฟอร์มที่ดี ตรงเวลา ก็จะทำให้แพลทฟอร์มนั้นคำนวนคะแนนที่ดีให้แก่ผู้ขอสินเชื่อ ส่งผลให้ผู้ขอสินเชื่อสามารถขอสินเชื่อที่มีวงเงินจำนวนมากขึ้นและดอกเบี้ยที่ต่ำลง
ซึ่งในส่วนนี้ทางระบบของ Jfin จะมีการใช้ AI และ Machine Lerning ในการคำนวณค่า Credit Scoring อีกด้วย
JFIN Token
หนึ่งในสิ่งที่หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าตัว Jfin Token นั้น คงหนีไม่พ้นประเด็น
“สามารถเอาไปทำอะไรได้?” และ “มูลค่าของมันมาจากอะไร?”
ตัว Jfin Token นี้เป็นสิ่งที่เรียกว่า Utility Token ที่สามารถนำไปทำ Proof of stake เพื่อรับค่าธรรมเนียม จากระบบจากระบบ DDLP ได้
โดยปกติแล้วค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการทำธุรกรรมของระบบ DDLP นั้นจะถูกส่งมอบให้แก่ผู้ที่นำ Jfin Token มา Stake ก็จะเป็นผู้ได้รับค่าธรรมเนียมของระบบไป
นั้นหมายความว่าในอนาคตเมื่อระบบ DDLP นั้นพัฒนาเสร็จสิ้น นอกจาทางผู้ใช้งานจะสามารถนำเหรียญ Jfin มา Stake บนแพลทฟอร์มและได้ผลตอบแทนจาก Jfin Token ที่ถูกใช้บนแพลทฟอร์มแล้ว ยังรวมไปถึงตัวเหรียญ Jfin coin เองก็ยังมี Utility อื่นๆที่สามารถใช้ได้ เช่น
นั้นหมายความว่าในอนาคตเมื่อระบบ DDLP นั้นพัฒนาเสร็จสิ้น นอกจาทางผู้ใช้งานจะสามารถนำเหรียญ Jfin มา Stake บนแพลทฟอร์มและได้ผลตอบแทนจาก Jfin Token ที่ถูกใช้บนแพลทฟอร์มแล้ว ยังรวมไปถึงตัวเหรียญ Jfin coin เองก็ยังมี Utility อื่นๆที่สามารถใช้ได้ เช่น
- ใช้เป็น Utility ในระบบ DDLP ในลักษณะค่าธรรมเนียมเช่น ค่าธรรมเนียมในการปล่อยสินเชื่อ
- ใช้สำหรับการประมูล หรือซื้อสินค้าซึ่งตอนนี้ทาง Jfin ได้จับมือร่วมกับทาง Vfin ในการประมูลสินค้าของใช้จากศิลปิน
- ใช้ในแพลทฟอร์ม E-voting ใน Jfin ที่จะถูกพัฒนาขึ้น
และนี่คือรายละเอียดคร่าวๆของแพลทฟอร์ม DDLP หากจะสรุปง่ายๆเลย มันคือ “แพลทฟอร์มแบบไม่มีตัวกลาง” ที่ผู้ใช้งานสามารถขอหรือปล่อยสินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว ทั้งด้วยการที่ระบบเป็นแบบดิจิทัล ส่งผลให้ผลการอนุมัติมีความความสะดวก, รวดเร็ว, ใช้เวลาไม่นานเหมือนการขอสินเชื่อทั่วไป และยังสามารถนำคุณสมบัติตรงนี้ไปต่อยอดพัฒนาระบบที่สำคัญต่างๆ ของวงการสินเชื่อในอนาคตอย่างแน่นอน
Comments
Post a Comment